สนามเดิมพันฟรี โปร คา สิ โน
การแนะนำ ฉะนั้น เริ่มต้นของโครงการสารานุกรมเพื่อเยาวชนนี้ ก็ขึ้นมาจากประโยชน์ส่วนตัว หรือประสบการณ์ส่วนตัว ที่จะให้ลูกได้มีหนังสือที่จะเป็นประโยชน์ แต่ว่าโดยที่โครงการนี้ ทำแล้วใช้เวลานานกว่าที่คาดคิด เลยทำให้ผู้ที่ควรจะได้รับประโยชน์ในตัวหนังสือตัวโต ๆ หรือตัวบราห์ม กลับต้องมาอ่านตัวหนังสือของตัวเล็ก ๆ และเป็นผู้ที่ต้องให้คำปรึกษากับกรรมการ ที่สร้างสารานุกรม ก็ขอรับรองว่า คงเป็นที่ปรึกษาที่มีคุณภาพ เพราะว่าตะกี้ปรึกษา ก็ได้คำปรึกษาที่ดี ที่เป็นประโยชน์ ทำให้สามารถที่จะพูด แล้วก็ถึงถามเขาว่า ในกำหนดการ ก็เพิ่งได้เห็นกำหนดการว่า จะต้องมีการพูดการกล่าว ก็ถามว่าควรจะมีสุนทรพจน์หรือเปล่า ก็ได้คำตอบว่า ควรจะมีสุนทรพจน์ จึงกล่าวกับท่านทั้งหลายอย่างนี้ ซึ่งท่านทั้งหลายผู้ที่ได้บริจาคเงินสำหรับสนับสนุนโครงการนี้ มาในงานเลี้ยงนี้ ก็จะต้องได้ค่าตอบแทน คือ ได้อาหารอย่างหนึ่ง แล้วก็ได้มหรสพ ได้ฟังดนตรี แล้วก็ตามแบบฝรั่ง ก็ต้องมาฟังสุนทรพจน์ ทีนี้ท่านผู้บริจาคก็ได้ไปแล้ว ทั้งอาหาร ทั้งดนตรี ทั้งสุนทรพจน์ ส่วนท่านผู้ที่เป็นนักวิชาการมาในงานนี้ ก็เพื่อมาปลาบปลื้มในงานของตน ท่านผู้ที่เป็นนักวิชการนี้ก็น่าชมมาก เพราะว่าได้อุทิศทุ่มเทเวลาของตัว และอาจจะกำลังกายของตัวด้วย นอกจากกำลังความคิด แม้จะกำลังทรัพย์ก็ทุ่มเทเหมือนกัน ตามธรรมดาผู้ที่ทำอะไรก็หวังประโยชน์หวังตอบแทน ท่านผู้ที่เป็นนักวิชการในโครงการนี้ ไม่มีสักคนที่หวังตอบแทน อันนี้ที่ทำให้คนที่ไม่รู้จักพวกเราฉงน นึกว่าใครละที่จะทำงานฟรี ๆ ไม่มีใคร แต่ก็ปรากฎมาแล้วว่า ทำงานด้วยความเข็มแข็ง ตั้งใจ เพื่อที่จะให้ความคิดของโครงการสารานุกรมได้บรรลุผล และไม่ใช่เท่านี้ เป็นการที่จะทำให้อนุชนรุ่นหลัง ได้มีโอกาส มีหนังสือที่จะขัดเกลาจิตใจเขา เสริมสร้างวิชาการของเขา ให้เป็นคนที่มีความสามารถ มีความดี สามารถที่จะก่อตั้ง หรือรักษาสังคม รักษาความเป็นไทยของเราได้ตลอดไป...
สนามทดลองใช้ฟรี แจกเครดิตฟรี 2019 ไม่ต้องฝาก
การแนะนำ ก็เป็นอันว่า วันนี้ได้เห็นสิ่งที่แปลก แปลกประหลาด คือว่า สำหรับเรา เราเข้าใจกันดี เพราะว่าเวลาเราอยู่ด้วยกัน แล้วก็เลี้ยงกัน คนไทยโดยมากก็ไม่ถือว่าต้องมีมหรสพ เพราะว่าโดยมากก็ตัวเองเป็นมหรสพ เวลามาสังสรรค์กัน มาในงาน ทุกคนจะต้องมีบทบาท ทั้งชาวบ้านชาวนา เวลาเขาเก็บเกี่ยวแล้ว เขาก็มีการละเล่น มีการมาชุมนุมกัน คนสมัยใหม่ตำหนิติเตียนว่า คนไทยนี่ฟุ่มเฟือย อย่างเช่น เวลาเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ก็มีงานมาชุมนุมกัน มาเล่นสนุกสนาน เขาว่าฟุ่มเฟือย หรือเวลาบวชนาค ก็ทำอย่างเอิกเกริก มาเลี้ยงกันใหญ่ หรือในงานอื่น ๆ ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงงานแต่งงาน จะกระทั่งมีลูกมีเต้า จนกระทั่งตาย ก็ต้องมีงานเอิกเกริกทุกครั้ง ซึ่งเขาบอกว่าฟุ่มเฟือย แต่แท้จริง ถ้าว่าไปก็ไม่ฟุ่มเฟือย เพราะว่าแต่ละคนที่มาในงานถ้าเป็นไทยแท้ หรือตามประเพณีแท้ ก็มาช่วยคนละไม้คนละมือ ไม่ได้ฟุ่มเฟือยมาก เพราะอาหารก็นำมา แล้วการแสดงมหรสพต่าง ๆ ก็ทำกันเอง มิได้ต้องสิ้นเปลืองแต่ประการใด อันนี้โดยมากคนก็ไม่นึก เพราะสมัยใหม่ คนสมัยใหม่เวลามีงานก็จะต้องฟุ่มเฟือย ก็จะต้องเช่าที่ จะต้องมีการแสดงที่จะต้องเสียทรัพย์มากมาย แต่ว่าถ้าทำแบบไทยเดิมของเรา ดัดแปลงเล็กน้อย สำหรับให้เข้ากับสภาพของสมัยนี้ สิ่งของในสมัยนี้ คืออุปกรณ์อะไรต่าง ๆ หรือสถานการณ์ ดัดแปลงเล็กน้อย แต่ว่าทำแบบไทย ก็ไม่ใช่เรื่องว่าจะต้องแสดงว่า รักชาติหรือหวงแหนชาติ เท่านั้นเอง แต่จะต้องเห็นว่า ความเป็นอยู่ของเรา เรามีของที่ดี ๆ ถ้าไปล้มเสีย ก็เป็นความน่าเสียดาย และยิ่งกว่าสิ่งที่ยิ่งกว่าน่าเสียดาย คือ จะเป็นความหายนะของเรา เราอยู่ได้ ก็เพราะว่าเรามีความคิด และสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างที่พูดถึง งานรื่นเริง แต่ละคนก็มีส่วน แต่ละคนช่วยกัน ถ้าพูดแบบโอวาทก็เป็นว่า มีสามัคคีช่วยเหลือเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน แต่ถ้าพูดธรรมดาก็หมายความว่า คนไทยนี้รักกัน มีเมตตากัน ฉะนั้น เมื่อมาในงานนี้เป็นการฉลองโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน คำว่า "ไทย" ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ